Black Hat SEO vs. White Hat SEO เลือกแบบไหนดี?
Black Hat SEO vs. White Hat SEO เลือกแบบไหนดี?
การทำ SEO นั้นมีหลายวิธี ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ White Hat SEO, Gray Hat SEO, และ Black Hat SEO โดยแต่ละวิธีจะมีเทคนิค และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงระดับความเสี่ยงที่ไม่เท่ากันด้วย
White Hat SEO คือ การทำ SEO แบบถูกกฎ เน้นการสร้างเว็บไซต์ และ Content ที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับผู้ใช้ และ Search Engine
Gray Hat SEO คือ การทำ SEO แบบ “กลางๆ” อยู่ระหว่าง White Hat และ Black Hat อาจมีการใช้เทคนิคบางอย่างที่ไม่ 100% ตามกฎของ Search Engine แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่า Black Hat
Black Hat SEO คือ การทำ SEO แบบผิดกฎ เน้นการใช้เทคนิคที่ “หลอกลวง” Search Engine เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับเร็วๆ โดยไม่สนใจผู้ใช้
มาดูกันว่า White Hat SEO และ Black Hat SEO ต่างกันอย่างไร?
White Hat SEO | Black Hat SEO | |
---|---|---|
เป้าหมาย | สร้างเว็บไซต์ และ Content คุณภาพ เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว | ติดอันดับเร็วๆ โดยไม่สนใจวิธีการ |
วิธีการ | – Keyword Research <br> – Content คุณภาพ <br> – On-Page Optimization <br> – Link Building คุณภาพ | – Keyword Stuffing <br> – Cloaking <br> – Link Farm <br> – Hidden Text |
ความเสี่ยง | ต่ำ | สูง (เว็บไซต์อาจโดน Google ลงโทษ) |
ผลลัพธ์ | ยั่งยืน มั่นคง | ไม่ยั่งยืน อันดับอาจหายไป หรือโดนแบน |
จริยธรรม | ถูกต้อง | ผิดจริยธรรม |
แล้วควรเลือกแบบไหนดี?
คำตอบคือ White Hat SEO แน่นอน!
- ผลลัพธ์ยั่งยืน: แม้จะใช้เวลานานกว่า แต่ผลลัพธ์จะ “มั่นคง” กว่า และไม่เสี่ยงโดน Google ลงโทษ
- สร้างความน่าเชื่อถือ: เว็บไซต์ที่ทำ White Hat SEO จะมีคุณภาพ น่าเชื่อถือ ทั้งในสายตา Google และผู้ใช้
- จริยธรรม: เป็นการทำ SEO ที่ “ถูกต้อง” และ “ยั่งยืน”
หลีกเลี่ยง Black Hat SEO เด็ดขาด เพราะ
- เสี่ยงโดน Google ลงโทษ: อันดับหาย Traffic หาย ธุรกิจก็ “พัง”
- เสียชื่อเสียง: ทำให้เว็บไซต์ “ดูไม่น่าเชื่อถือ” ในสายตาผู้ใช้
สรุป
การทำ SEO ควรเลือก “White Hat SEO” ซึ่งเป็นวิธีที่ “ถูกต้อง” “ยั่งยืน” และ “สร้างความน่าเชื่อถือ” ให้กับเว็บไซต์ แม้จะใช้เวลา แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอน